คนไทย-ต่างชาติ เช่าที่ดินทะลัก
ช่วง5ปีทำสัญญาเฉียด3แสนล้าน
โซนฮอต ‘กทม.-เมืองท่องเที่ยว’
นายวิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เปิดเผยว่า ในยุคที่ราคาที่ดินมีราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง การเช่าที่ดินจึงดูเหมือนจะเป็นทางออกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการใช้ที่ดินเพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ เช่น การพาณิชย์ การพักอาศัย การสร้างโกดังสินค้า โดย REIC พบว่า ในช่วงปี 2561 ถึง 8 เดือนแรกของปี 2565 มีการเช่าที่ดินระยะเวลาเกินกว่า 3 ปี ที่มีการจดทะเบียนที่สำนักงานที่ดินจำนวน 20,100 แปลง เป็นพื้นที่ 134,433 ไร่ และมีมูลค่าการเช่าสูงถึง 278,785 ล้านบาท
”ส่วนใหญ่เป็นการเช่าพื้นที่โดยผู้เช่าสัญชาติไทยประมาณ 95% จำนวน 20,100 แปลง พื้นที่ 128,008 ไร่ มูลค่า 270,756 ล้านบาท สำหรับ ผู้เช่าต่างชาติ มีการเช่า 2,446 แปลง พื้นที่ 6,425 ไร่ มูลค่า 8,029 ล้านบาทเท่านั้น” นายวิชัยกล่าว
นายวิชัยกล่าวว่า ภาพรวมของทำเลการเช่าส่วนใหญ่จะมีการเช่าในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลประมาณ 26.52% ของการเช่าทั้งหมดทั่วประเทศ ทั้งนี้ จากข้อมูลในช่วงปี 2561 ถึง 8 เดือนแรกของปี 2565 ในพื้นที่กรุงเทพฯอยู่ที่ 14.16% นนทบุรี 3.16% สมุทรปราการ 3.09% และนครปฐม 3.02% ขณะที่ ในพื้นที่ภูมิภาค เป็นการเช่าพื้นที่ในจังหวัดที่เป็น หัวเมืองหลักและเมืองท่องเที่ยวที่มีเศรษฐกิจดี เช่น เชียงใหม่ ชลบุรี ระยอง นครราชสีมา ขอนแก่น ประจวบคีรีขันธ์ ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี เป็นต้น
นายวิชัยกล่าวว่า ส่วนการเช่าที่ดินของผู้เช่าสัญชาติต่างชาติในประเทศไทย นับได้ว่ายังมีปริมาณน้อยมาก ส่วนใหญ่ทำการเช่าที่มีระยะเวลาเกินกว่า 3 ปี ในพื้นที่ในจังหวัดที่เป็นเมืองท่องเที่ยว คือ ประจวบคีรีขันธ์ ภูเก็ต ระยอง ชลบุรี และ เชียงใหม่ อีกทั้งยังพบได้ว่าทั้ง 5 จังหวัดที่กล่าวมา มีการเช่าที่อยู่อาศัยที่เป็นแนวราบของชาวต่างชาติใน 5 อันดับแรกด้วยเช่นกัน ส่วนการเช่าอาคารชุดที่ส่วนหนึ่งเป็นการรองรับการซื้ออาคารชุดของชาวต่างชาติที่เกินสัดส่วน 49% พบว่ามีการเช่าอาคารชุดที่มีระยะเวลาเกินกว่า 3 ปี โดยส่วนใหญ่จะกำหนดครบสัญญา 30 ปี มีเงื่อนไขต่อให้อีก 30 ปี ได้อีก 1-2 ครั้ง และมีมากในจังหวัดภูเก็ต ชลบุรี ประจวบคีรีขันธ์ กรุงเทพฯ สมุทรปราการ และ เชียงใหม่
Reference: หนังสือพิมพ์มติชน