ทุนอสังหาฯEEC รุกตลาดกรุงเทพฯ คราฟเวิร์ค ปั้นแบรนด์ ละไม บุกแนวราบ
ดีเวลลอปเปอร์จากพัทยา-ระยอง มูฟออนเข้าสู่ เอเรียลพื้นที่กรุงเทพฯ ดึงพันธมิตรร่วมลงทุนตั้งบริษัท คราฟเวิร์คฯ แก่นหลักรุกตลาดแนวราบเป็นครั้งแรก พัฒนา “ละไม หทัยราษฎร์39” มูลค่าทั้งโครงการถึง 2,000 ลบ. แย้มพร้อมขยับเข้าใกล้ซีบีดี-ซีบีดีใหม่ รัชดา พระราม 9 ลั่นแลนด์แบงก์ในมือมูลค่าเฉียดหมื่นลบ. รองรับพัฒนาโครงการใหม่ตามแผน 2-3 ปี ถึง 20,000-30,000 ลบ.
นายเฉลิมพล โขนแจ่ม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คราฟเวิร์ค จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจลงทุนและพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ (Holding Real Estate Company) ซึ่งหลักๆ มีการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยโครงการคอนโดมิเนียมระดับ ลักชัวรีและแนวราบในพื้นที่กรุงเทพฯตะวันออก และในพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ในพัทยา จังหวัดชลบุรี และ จังหวัดระยอง เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับทิศทางธุรกิจและกระจายความเสี่ยงในการลงทุน เนื่องจากโครงการคอนโดมิเนียมต้องใช้ระยะเวลานาน โดยการจัดตั้งบริษัทใหม่ มีเป้าหมายรุกลงทุนและพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพ ภายใต้แบรนด์ใหม่ “ละไม” ประเดิมโครงการแรกย่านถนนหทัยราษฎร์ ใช้ชื่อโครงการ “ละไม หทัยราษฎร์39” บนเนื้อที่โครงการ 85 ไร่ มูลค่าโครงการประมาณ 2,000 ล้านบาท
โดยแบ่งการพัฒนาออกเป็น 2เฟสๆแรกพัฒนาบนเนื้อที่ 35ไร่ จำนวน 144 ยูนิต มูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท ราคาเริ่มต้น 5-9 ล้านบาท โดยในเฟสแรกพัฒนาเป็นบ้านแฝด 2ชั้น สไตล์ญี่ปุ่น ภายใต้แนวคิด “ชีวิตที่ได้มากกว่า กับการอยู่อาศัยที่ออกแบบมาอย่างละเมียดละไม” จับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายคนรุ่นใหม่ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มคนในพื้นที่ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยเพื่อต้องการสร้างครอบครัวของตนเอง แต่ในขณะเดียวกันยังคงต้องการอยู่ใกล้ครอบครัว และเป็น กลุ่มลูกค้าทั่วไปที่ต้องการที่อยู่อาศัยใกล้ที่ทำงาน เป็นผู้อยู่อาศัยในพื้นที่หรือทำงานในพื้นที่ใกล้เคียง เช่น บางกะปิ มีนบุรี ลาดพร้าว เป็นต้น ซึ่งเราก็มองโซนหทัยราษฎร์ ก็เป็นโซนตะวันออก และมีความพิเศษมีทางด่วน มีห้างสรรพสินค้า เป็นพื้นที่ที่มีอนาคต
“เนื่องจากด้วยกฎหมายผังเมือง กำหนดให้การสร้างบ้านเดี่ยวต้องมีเนื้อที่ 100 ตารางวา ทำให้ต้องปรับมาเป็นรูปแบบบ้านแฝด ซึ่งปัจจุบันมีผู้มาลงทะเบียนแสดงความสนใจเกือบ 200 ยูนิต อย่างไรก็ตาม ในการพัฒนาเฟส 2นั้น คาดว่าจะเริ่มพัฒนาต่อ เพียงแต่เราอาจจะมีสินค้าทาวน์โฮมเข้ามาเสริม หลังจากมีการปรับผังเมืองแล้ว ทั้งนี้ ในเรื่องของกำลังซื้อ (ดีมานด์) สินค้าบ้านแฝดเป็นที่ต้องการ โดยหลังจากเปิดให้ลูกค้าลงทะเบียนในเฟสแรก ปรากฎว่ามียอดเข้ามาถึง 200 ยูนิต”
สำหรับทิศทางของบริษัท คราฟเวิร์คฯ จะเป็นแก่นหลักในการตลาดแนวราบ โดยเรามีแผนจะขยับเข้าไปใกล้ๆพื้นที่กรุงเทพฯ พิจารณาทำเลศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) และ ทำเลศูนย์ธุรกิจใหม่ เช่น โซนรัชดาฯ และ พระราม 9 เป็นต้น ซึ่งโลเกชันอาจจะไม่ต้องอยู่ใกล้รถไฟฟ้า ใกล้ทางด่วน แต่อยู่ที่ลักษณะของทำเล นั้นๆ ความสามารถในการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน และกำไรจากโครงการที่จะพัฒนา เป็นต้น
“เป้าหมายของบริษัทคราฟเวิร์คฯภายใน 3 ปี จะมีรายได้จากธุรกิจแนวราบประมาณ 2,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ปลายปี 2566 ขณะที่ โครงการคอนโดมิเนียม ซึ่งเป็นการร่วมทุนกับพันธมิตร พัฒนาโครงการซูเปอร์ ลักชัวรีคอนโดมิเนียม อารมณ์ วงศ์อมาตย์ พัทยา มูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท จะทยอยรับรู้รายได้ในปีหน้า ดังนั้น คาดว่าในปี 2567 รายได้รวมทั้งจากโครงการแนวราบและคอนโดฯจะประมาณ 4,000 ล้านบาท ในส่วนของแลนด์แบงก์รองรับการพัฒนาโครงการต่างๆนั้น มีกระจายอยู่ในโซนพัทยา ระยอง และ กรุงเทพฯ มูลค่าเฉียด 10,000 ล้านบาท สามารถรองรับการพัฒนาโครงการให้มีมูลค่ารวมได้ถึง 20,000-30,000 ล้านบาท ซึ่งการเพิ่มพอร์ตโครงการ เพื่อรองรับแผนที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์”
น.ส.ชลธิชา เสนารีย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวลา เรียลเอสเตท จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจเป็นที่ปรึกษาด้านการตลาดและการขายอสังหาฯ กล่ววถึงภาพรวมตลาดอสังหาฯในทำเลหทัยราษฎร์และพื้นที่ใกล้เคียงว่า การแข่งขันตลาดค่อนข้างสูง มีคู่แข่งขันทั้งผู้ประกอบการในพื้นที่และจากนอกพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคยังมีความต้องการซื้อบ้านในทำเล ดังกล่าว เห็นได้จากอัตราการขายที่สูงกว่า 50-60% ขึ้นไปในสินค้าแต่ละประเภท ขณะที่บ้านแฝดมีจำนวน ซัปพลายที่น้อยเมื่อเทียบกับบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ ในขณะเดียวกันอัตราการขายบ้านแฝดทุกระดับราคามีอัตราที่สูงมากและสามารถแทรกตลาด ทาวน์เฮาส์และบ้านเดี่ยวได้
ที่มา: ผู้จัดการรายวัน 360 องศา